การทำให้การสมัคร FAFSA ง่ายขึ้นเป็นภาระกิจสำคัญของอดีตวุฒิสมาชิกรัฐเทนเนสซี Lamar Alexander สมาชิกพรรครีพับลิกัน การนำ FAFSA Simplification Act มาใช้ผ่านรัฐสภาเป็นหนึ่งในภาระกิจครั้งสุดท้ายของเขา ก่อนจะเกษียณอายุในช่วงปลายปี 2020
เครดิตภาพ: Tom Williams/CQ-Roll Call, Inc via Getty Images
ในเดือนธันวาคม ปี 2020 รัฐสภาสหรัฐอเมริกาได้ผ่านกฎหมาย FAFSA Simplification Act เพื่อช่วยเหลือนักศึกษาระดับมหาวิทยาลัยที่ต้องการความช่วยเหลือด้านทุนการศึกษา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของงบประมาณสิ้นปีในช่วงท้ายของการบริหารภายใต้รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อย่างไรก็ตาม ในปี 2024 นี้ FAFSA ที่ได้ดำเนินการช่วยเหลือนักศึกษามาหลายปีนั้นได้เกิดความผิดพลาดขึ้น
FAFSA หรือ Free Application for Federal Student Aid เป็นองค์กรที่ให้ความช่วยเหลือเกี่ยวกับทุนการศึกษาสำหรับการศึกษาในระดับอุดมศึกษา โดยพิจารณาจากสถานะทางการเงินของครอบครัวและนักศึกษา โดย FAFSA จะส่งข้อมูลที่ได้รับนี้ไปยังมหาวิทยาลัยที่นักศึกษาสนใจ หลังจากนั้น ทางมหาวิทยาลัยจะส่งความช่วยเหลือทางการเงินกลับมาให้กับนักศึกษา นอกจากนี้ FAFSA ยังสามารถใช้สำหรับโครงการช่วยเหลือนักเรียนของรัฐบาลกลางอื่นๆ ซึ่งทุนการศึกษาเอกชนบางทุนก็จำเป็นต้องใช้ข้อมูลจาก FAFSA เช่นกัน จึงทำให้ FAFSA เป็นที่นิยมอย่างมากในสหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม ขั้นตอนของการสมัคร FAFSA นั้นถือว่ายุ่งยาก ดังนั้น ในปี 2020 รัฐบาลสหรัฐฯ จึงวางแผนที่จะปรับปรุงโครงการนี้ให้เข้าถึงนักศึกษาได้ง่ายขึ้น โดยในปี 2024 FAFSA มีการปรับปรุงการสมัครให้ง่ายขึ้น ดังนี้
1. การลดจำนวนคำถามจาก 108 ข้อเหลือ 46 ข้อ
2. การเพิ่มจำนวนภาษาเป็น 11 ภาษา ซึ่งแตกต่างจากปีก่อน ที่มีเพียงภาษาอังกฤษและสเปนเท่านั้น
3. การลดคำถามที่เกี่ยวข้องกับการเงินด้วยการให้ผู้สมัครใช้เครื่องมือดึงข้อมูลอัตโนมัติ IRS Data Retrieval Tool โดยต้องขอความยินยอมจากทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง
4. การมี FAFSA ID ของนักศึกษา เพื่อเหตุผลด้านความปลอดภัยของทั้งตัวนักศึกษา ผู้ปกครอง บุคคลในครอบครัว หรือคู่สมรส
5. การเปลี่ยนสูตรการคำนวณจำนวนเงินที่นักศึกษาแต่ละคนจะได้รับจากแบบ Expected Family Contribution เป็น Student Aid Index มีวัตถุประสงค์เพื่อชี้แจงว่าตัวเลขนี้ไม่ใช่จำนวนเงินที่คาดว่าครอบครัวจะต้องจ่าย แต่เป็นดัชนีที่ใช้ในการพิจารณาสิทธิ์รับความช่วยเหลือ
นักเรียนและครอบครัวมารวมตัวกันเพื่อเข้ารับการปฐมนิเทศที่ Hampshire College ในเดือนสิงหาคม 2023 สถาบันแห่งนี้กำลังฟื้นตัวจากภาวะตกต่ำ
เครดิตภาพ: Johanna Alonso for Inside Higher Ed
แม้ว่าแผนการพัฒนา FAFSA จะเปี่ยมไปด้วยความหวัง แต่การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้กลับไม่เป็นไปตามแผน หลังจากทางกระทรวงศึกษาธิการเลื่อน FAFSA แบบใหม่ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2023 มาเป็นเดือนธันวาคม แต่ก็ยังเต็มไปด้วยข้อบกพร่องที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข ทำให้มหาวิทยาลัยไม่สามารถส่งความช่วยเหลือให้กับนักศึกษาได้อย่างรวดเร็ว และกระบวนการรับนักศึกษาเข้ามหาวิทยาลัยโดยรวมเกิดความขัดข้อง ด้วยเหตุนี้จึงมีนักเรียนระดับมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่ได้ไม่สมัคร FAFSA และทำให้นักศึกษาจากครอบครัวที่มีรายได้น้อยเป็นจำนวนมาก ตัดสินใจไม่เข้ารับการศึกษาในระดับมหาวิทยาลัย
ความล้มเหลวนี้เกิดขึ้นจากปัจจัยหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นภาระอื่นของกระทรวงที่บดบังการพัฒนา FAFSA เช่น การบรรเทาหนี้ของนักเรียน และการแก้ไขปัญหาของโรคระบาด Covid19 ในระบบการศึกษาขั้นพื้นฐาน, เทคโนโลยีของ FAFSA รุ่นเก่าที่ล้าสมัย, เงินทุนจากรัฐบาล, หรือความสามารถของคณะบริหารภายใต้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เป็นต้น
เนื่องด้วยสถานศึกษาขนาดเล็กจำเป็นต้องพึ่งพาค่าธรรมเนียมการศึกษาจากนักศึกษาเป็นหลัก เมื่อมีนักเรียนตัดสินใจไม่เข้ารับการศึกษาในระดับอุดมศึกษามากขึ้น วิทยาลัยเหล่านี้ก็จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลง หรือปิดตัวลง เช่น Lindenwood University รัฐ Missouri ที่ปิดโปรแกรมกีฬา 10 รายการและปลดพนักงานออก 9 คนเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว และได้ประกาศในเดือนมิถุนายนปีนี้ว่าจะลดงบประมาณการดำเนินงานลง 10 เปอร์เซ็นภายในฤดูใบไม้ร่วงนี้ โดยเริ่มจากการปลดพนักงาน 12 คนและคณาจารย์ 2 คน University of Lynchburg รัฐ Virginia ตัดหลักสูตรระดับปริญญาตรี 12 หลักสูตร ระดับบัณฑิตศึกษา 5 หลักสูตรและปลดพนักงานอีก 40 คนในเดือนมิถุนายนนี้ เป็นต้น
มหาวิทยาลัย Lindenwood ประกาศลดรายจ่ายในเดือนธันวาคมเพื่อปรับสมดุลของงบประมาณ หลังจากความล้มเหลวของ FAFSA ทำให้การคาดการณ์จำนวนผู้ลงทะเบียนคลาดเคลื่อน มหาวิทยาลัยจึงต้องลดรายจ่ายลงอีก
เครดิตภาพ: Lindenwood University
จากปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องกับ FAFSA กระทรวงการศึกษาธิการสหรัฐฯ ได้วางแผนแก้ไขปัญหาด้วยการอัดฉีดเงินทุน 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อการพัฒนาบุคลากรและที่ปรึกษาในการสนับสนุนให้นักเรียนนักศึกษาที่ต้องการความช่วยเหลือในปีต่อไป ให้สามารถสมัคร FAFSA ได้เสร็จสิ้นสมบูรณ์
แหล่งอ้างอิง
The Government’s Solution to FAFSA Chaos: Spend $50 Million More,
FAFSA ‘fiasco’ Could Cause Decline in the Number of Students Going to College, Experts Say,
How Ambitious Plans for a New FAFSA Ended in a Fiasco,
FAFSA Woes Lead to Budget Cuts at Small Colleges,
Comments