อว. เยือนหอดูดาวแห่งชาติคิตต์พีค สหรัฐอเมริกา

สำนักงานที่ปรึกษาด้านการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน พร้อมด้วย ศ.ดร.ศุภชัย ปทุมนากุล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ผศ.ดร.วิภู รุโจปการ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) และคณะผู้แทน เดินทางเยือนหอดูดาวแห่งชาติคิตต์พีค (Kitt Peak National Observatory: KPNO) รัฐแอริโซนา สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 7 กันยายนที่ผ่านมา เพื่อหารือแนวทางการยกระดับศักยภาพด้านดาราศาสตร์และวิทยาศาสตร์อวกาศของไทย

KPNO ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1958 โดยมูลนิธิวิทยาศาสตร์แห่งชาติสหรัฐฯ (National Science Foundation: NSF) ตั้งอยู่บนพื้นที่ของชนเผ่า Tohono O’odham Nation ที่ระดับความสูง 2,096 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล นับเป็นศูนย์วิจัยดาราศาสตร์ชั้นนำของโลก มีทั้งกล้องโทรทรรศน์กว่า 20 ตัว และกล้องโทรทรรศน์วิทยุ 2 ตัว ทำให้ที่นี่เป็นฐานปฏิบัติการด้านดาราศาสตร์ที่ครบถ้วนและทันสมัย มีบทบาทสำคัญต่อการค้นพบดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะ การทำแผนที่โครงสร้างเอกภพ และการศึกษาปรากฏการณ์ดาราศาสตร์เฉพาะช่วงเวลา การเยือนครั้งนี้นอกจากจะเป็นโอกาสในการเรียนรู้และแลกเปลี่ยนประสบการณ์แล้ว ยังเปิดประตูสู่ความร่วมมือในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นการวิจัยร่วม การแลกเปลี่ยนข้อมูล การพัฒนาบุคลากร และการจัดกิจกรรมเผยแพร่สู่สังคม โดยเฉพาะการเชื่อมโยงความร่วมมือระหว่าง KPNO และ สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) ที่จะช่วยยกระดับความสัมพันธ์ทางวิทยาศาสตร์กับสถาบันระดับโลก และผลักดันการพัฒนาดาราศาสตร์และวิทยาศาสตร์อวกาศของไทยให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก

ในโอกาสนี้คุณ Lori Elaine Allen, director of Mid-Scale Observatories at NSF's NOIRLab และคุณ Robert Sparks, senior communications, education and engagement specialist ได้พาคณะผู้แทนเยี่ยมชม Mayall 4-meter Telescope ซึ่งติดตั้งโครงการ Dark Energy Spectroscopic Instrument (DESI) ความร่วมมือระหว่าง U.S. Department of Energy และ NSF ที่มุ่งศึกษาพลังงานมืดและโครงสร้างเอกภพ รวมถึง WIYN 3.5-meter Telescope ที่ใช้ในการค้นหาและวิเคราะห์ดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะ ภายใต้การดำเนินงานของ WIYN Consortium ซึ่งประกอบด้วยมหาวิทยาลัยและสถาบันวิจัยชั้นนำของสหรัฐฯ ได้แก่ University of Wisconsin, Indiana University, NSF’s NOIRLab, Pennsylvania State University และ Princeton University