ฝนตกหนักในรัฐ Rio Grande do Sul ทางตอนใต้ของประเทศบราซิล ได้เผยให้เห็นถึงการค้นพบที่ถูกซ่อนไว้มานานหลายล้านปี
(Rodrigo Temp Muller / Janaina Brand Dillmann / CAPPA - UFSM via Storyful / FOX Weather)
ทีมวิจัยที่นำโดยนักบรรพชีวินวิทยา Rodrigo Temp Müller จาก Federal University of Santa Maria ได้พบฟอสซิลโครงกระดูกไดโนเสาร์ที่อยู่ในสภาพที่เกือบจะสมบูรณ์ ที่ถูกเก็บมาจากบริเวณใกล้อ่างเก็บน้ำในเขตเทศบาล Sao Joao do Polesine ประเทศบราซิล ซากไดโนเสาร์ที่พบเป็นซากที่เก่าแก่ที่สุดในโลก นับตั้งแต่ประมาณ 233 ล้านปีก่อน ซึ่งอยู่ในยุค Triassic ที่กินเวลาตั้งแต่ 252 ล้านถึง 201 ล้านปีก่อน เป็นช่วงที่ทุกทวีปในโลกรวมกันเป็นทวีปใหญ่แผ่นเดียว เรียกว่า Pangea และเชื่อกันว่าไดโนเสาร์มีวิวัฒนาการครั้งแรกในยุคนั้น
ทีมวิจัยได้ขุดค้นสถานที่อย่างพิถีพิถัน โดยค่อยๆ แยกก้อนหินที่บรรจุโครงกระดูกทั้งหมดออกอย่างระมัดระวัง ในเวลาเพียงสี่วัน จากนั้นก้อนหินเหล่านี้จึงถูกส่งไปยังห้องปฏิบัติการเพื่อทำการวิเคราะห์เพิ่มเติม นักวิจัยชาวบราซิลนี้เชื่อว่าซากไดโนเสาร์นี้มาจากตระกูล Herrerasauridae ซึ่งรวมถึงสัตว์กินเนื้อ theropod ที่อาศัยอยู่ในช่วงยุค Triassic จากหลักฐานของฟอสซิล ไดโนเสาร์นี้อาจจะมีความยาวประมาณ 2.5 เมตร (8.2 ฟุต)
Herrerasauridae เป็นหนึ่งในตระกูลไดโนเสาร์ที่เก่าแก่ที่สุดเท่าที่เคยพบ ซึ่งเคยอาศัยอยู่ในพื้นที่ส่วนใหญ่ของบราซิลและอาร์เจนตินาในปัจจุบัน พวกมันเป็นสัตว์นักล่าอันดับต้น ๆ ในระบบนิเวศและสูญพันธุ์ไปเมื่อสิ้นสุดยุคนี้ แต่นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ทีมวิจัยของ Müller ได้พบไดโนเสาร์ในภูมิภาคนี้ ในปี 2019 ไดโนเสาร์กินเนื้ออีกตัวหนึ่งจากยุค Triassic ได้ถูกค้นพบใกล้กับ Santa Maria รัฐ Rio Grande do Sul ไดโนเสาร์ที่ค้นพบในปี 2019 นี้มีชื่อว่า Gnathovorax cabreirai ซึ่งก็เป็นของตระกูล Herrerasauridae และอาศัยอยู่ในช่วงเวลาเดียวกัน คือเมื่อประมาณ 233 ล้านปีก่อน ตัวอย่างไดโนเสาร์นี้อาจสามารถช่วยอธิบายวิวัฒนาการระหว่างนักล่ายุค Triassic ในช่วงต้น กับ theropods ที่รู้จักกันดี เช่น Tyrannosaurus Rex (T. rex) โดยไดโนเสาร์อย่าง G. cabreirai และตัวอย่างใหม่ที่ค้นพบได้ดำรงชีวิตอยู่ก่อนไดโนเสาร์ theropods เหล่านี้หลายสิบล้านปีก่อน ซึ่งยุค Triassic มีบทบาทสำคัญสำหรับการครองยุค Jurassic และยุคถัดๆ ไปของไดโนเสาร์ นอกจากนี้ยุค Triassic ยังเป็นช่วงการฟื้นตัวหลังจากเกิดภัยธรรมชาติและการสูญพันธุ์ครั้งใหญ่ ที่ควบคู่ไปกับการเกิดขึ้นของสิ่งมีชีวิตชนิดใหม่ทำให้มีความหลากหลายทางชีวภาพมากขึ้น ทีมวิจัยได้ทำการวิเคราะห์เชิงลึกเพื่อพิจารณาว่าฟอสซิลดังกล่าวเป็นสายพันธุ์ใหม่ หรือเป็นสายพันธุ์ที่ถูกค้นพบแล้ว
ฟอสซิลไดโนเสาร์
(CAPPA/UFSM / FOX Weather)
ฟอสซิลมีแนวโน้มที่จะปรากฏขึ้นหลังฝนตก เนื่องจากน้ำฝนสามารถกำจัดตะกอนที่ปกคลุมอยู่ได้ (weathering) โดย Rio Grande do Sul มีปริมาณฝนตกหนักเป็นประวัติการณ์เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ทำให้เกิดน้ำท่วมร้ายแรงในเดือนพฤษภาคม และคร่าชีวิตผู้คนไปอย่างน้อย 182 ราย จากข้อมูลตัวเลขที่เผยแพร่โดยฝ่ายป้องกันพลเรือนของรัฐเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม เหตุการณ์สภาพอากาศสุดขั้วนี้เกิดขึ้นจากสภาวะโลกร้อน ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากการเผาไหม้น้ำมัน ก๊าซ และถ่านหิน Müller หนึ่งในทีมวิจัยกล่าวว่า มีฟอสซิลที่ปรากฏขึ้นมามากขึ้นเนื่องจากฝนตกหนัก ซึ่งทำให้ต้องทำงานแข่งขันกับเวลาก่อนที่ซากเหล่านั้นจะถูกทำลาย จากในสนามที่ขุดค้นพบว่ามีกระดูกขาและกระดูกบริเวณอุ้งเชิงกรานของซากไดโนเสาร์ได้ถูกทำลายไปแล้วเนื่องจากฝนตก
นักวิจัยบราซิลกลุ่มนี้หวังว่าการค้นพบนี้จะช่วยชี้ข้อมูลต้นกำเนิดของไดโนเสาร์ที่ยังคงมีข้อถกเถียงกันอยู่ ให้ได้รับความเข้าใจมากขึ้น
แหล่งข้อมูลอ้างอิง
One of World’S Oldest Dinosaur Fossils Revealed by Heavy Rains in Brazil. https://interestingengineering.com/science/worlds-oldest-dinosaur-fossil-brazil
Brazilian Researchers Discover Dinosaur Fossil After Heavy Rains in Rio Grande Do Sul
Comments