top of page

มหาวิทยาลัยในแคนาดาทำการวิจัยร่วมกับนักวิทยาศาสตร์การทหารของจีน

ความร่วมมือทางด้านวิทยาศาสตร์ระหว่างประเทศนั้น เป็นการลงทุนในความพยายามร่วมกันเพื่อศึกษาและพัฒนาความก้าวหน้าทางด้านวิทยาศาตร์ แต่ทั้งนี้ การทำงานร่วมกันที่มากขึ้น การเชื่อมโยง และผลประโยชน์จากการศึกษาวิจัยก็มีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้นเช่นกัน โดยเฉพาะเมื่อมีความเกี่ยวข้องกับทางการเมืองและการทหาร ซึ่งได้กลายเป็นประเด็นสำคัญเกี่ยวกับความมั่นคงของประเทศเมื่อมหาวิทยาลัยในแคนาดาร่วม 50 แห่งร่วมมือกับสถาบันวิทยาศาสตร์ชั้นนำของกองทัพจีนในโครงการวิจัยเทคโนโลยีขั้นสูงหลายร้อยโครงการนับตั้งแต่ปี 2548 – 2565


โดยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมานั้น นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยชั้นนำราว 10 แห่งของแคนาดา ที่รวมถึง University of Waterloo, University of Toronto, University of British Columbia และ McGill University ได้ร่วมกับนักวิจัยจากสถาบัน National University of Defense Technology (NUDT) ของจีน ในการศึกษาวิจัยวิทยาศาสตร์ขั้นสูงสาขาต่างๆ และเผยแพร่เอกสารวิชาการร่วมกันมากกว่า 240 ฉบับ เช่น

  • University of Waterloo เผยแพร่เอกสารทางวิชาการร่วมกับนักวิจัยในสังกัด NUDT ของจีนสูงที่สุด รวม 46 ฉบับในช่วงปี 2560 – 2565 โดยมีการศึกษาเกี่ยวข้องกับโฟโตนิกส์ การศึกษาสถานการณ์เลียนแบบ สถานการณ์การแฮ็ก (hacking scenario) เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับความเปราะบางของระบบ และวิธีใช้ประโยชน์จากระบบควอนตัม

  • University of Toronto ได้เผยแพร่เอกสารทางวิชาการร่วมกันจำนวน 15 ฉบับ ที่ศึกษาเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์การบินและอวกาศ ดาวเทียม และไมโครชิป

  • McGill University ได้เผยแพร่เอกสารทางวิชาการ 25 ฉบับ โดยศึกษาวิจัยเกี่ยวกับอินเตอร์เฟอโรเมตริกเลเซอร์บนอวกาศ (space-based laser interferometry) รวมถึงระบบขับเคลื่อนความเร็วเหนือเสียง โดยในปี 2563 ได้มีการทดสอบการใช้ดาวเทียมเพื่อนำทางยานอวกาศร่วมกัน

  • University of British Columbiaเผยแพร่เอกสารวิชาการร่วมกัน 20 ฉบับ ที่เป็นการวิจัยเกี่ยวกับความปลอดภัยด้านโทรคมนาคม การเพิ่มประสิทธิภาพการออกแบบเครื่องบิน และการประมวลผลสัญญาณ

  • University of Calgaryเผยแพร่เอกสารวิชาการร่วมกัน 7 ฉบับ เป็นการศึกษาเกี่ยวกับควอนตัม การทำแผนที่มือถือ และการสำรวจระยะไกล

โครงการวิจัยที่ได้ดำเนินการร่วมกันระหว่างมหาวิทยาลัยในแคนาดากับหน่วยงานทางการทหารของจีนที่ผ่านมา รัฐบาลแคนาดาได้มีการออกมากล่าวเตือนว่า จีนกำลังใช้โครงการวิจัยทางวิชาการเพื่อประโยชน์ทางเศรษฐกิจและทางการทหาร ซึ่งบางโครงการความร่วมมือได้รับการสนับสนุนจาก Natural Sciences and Engineering Research Council (NSERC) ซึ่งเป็นหน่วยงานจัดหาทุนของรัฐบาลกลางแคนาดา (โดยบางโครงการได้รับการสนับสนุนร่วมจากรัฐบาลรัสเซียด้วย เช่น การใช้เลเซอร์เพื่อแฮ็กระบบเข้ารหัสลับควอนตัม (quantum cryptographic systems)) รัฐบาลและหน่วยงาน Canadian Security Intelligence Service (CSIS) ที่เป็นหน่วยข่าวกรองด้านความมั่นคงแห่งแคนาดา ย้ำว่า NSERC ควรประเมินความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับด้านความปลอดภัย หากโครงการใดมีความเสี่ยงสูงจะต้องผ่านการตรวจสอบโดยหน่วยงานด้านความมั่นคงของแคนาดาก่อน ซึ่งหากพิจารณาแล้วเห็นว่ามีความเสี่ยงสูงเกินไป งานวิจัยนั้นจะไม่ได้รับเงินทุนสนับสนุนจากรัฐบาลกลาง ซึ่งทางมหาวิทยาลัยตระหนักดีว่า ความร่วมมือระหว่างประเทศบางส่วนอาจเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงต่อความมั่นคงของแคนาดา โดยพยายามดำเนินการภายใต้แนวทางปฏิบัติที่ได้จากรัฐบาล แต่ทั้งนี้ ทางมหาวิทยาลัยต้องการความชัดเจนจากรัฐบาลเกี่ยวกับความเสี่ยงที่เกิดจากการวิจัยร่วมกัน ต้องการทราบว่ามีภัยคุกคามใดอยู่บ้าง เพื่อไม่ให้เป็นการปิดกั้นเสรีภาพทางวิชาการ และขอให้มีการปฏิรูปกฏหมายเพื่อให้หน่วยงานอย่าง CSIS ที่รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับภัยคุกคามจากต่างประเทศแชร์ข้อมูลได้มากขึ้น ทั้งนี้ รัฐบาลแคนาดายังไม่มีคำสั่งอย่างเป็นทางการที่เป็นการปิดกั้นการวิจัยร่วมกัน ซึ่งแนวทางปฏิบัติใหม่ครอบคลุมเฉพาะเงินทุนสนับสนุนจากรัฐบาลกลางแคนาดาเท่านั้น ซึ่งทางจีนเสนอเงินสนับสนุนจำนวนมากให้กับนักวิจัยและมหาวิทยาลัยของแคนาดาเพื่อพัฒนาโครงการวิจัยร่วมกันต่อไป


 


bottom of page