US government shut down ครั้งนี้มีผลอย่างไรต่อวงการวิทยาศาสตร์ สหรัฐฯ

US government shut down เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2025 เวลา 00:01 น. ตามเวลาท้องถิ่น เกิดจากการที่สมาชิกสภานิติบัญญัติในรัฐสภาไม่สามารถตกลงกันได้ในร่างกฎหมายจัดสรรงบประมาณเพื่อดำเนินงานของรัฐบาล ผลของการปิดหน่วยงานรัฐบาลกลางได้กลายเป็นเรื่องปกติในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา แต่การปิดครั้งนี้อาจจะแตกต่างออกไป โดยฝ่ายบริหารของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ได้สนับสนุนให้มีการเลิกจ้างพนักงานของรัฐบาลกลางครั้งใหญ่ ซึ่งรวมถึงนักวิทยาศาสตร์หลายหมื่นคนในระหว่างที่งบประมาณขาดช่วง แต่ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าการเลิกจ้างดังกล่าวจะเริ่มต้นเมื่อใด จะสามารถรอดพ้นจากข้อโต้แย้งทางกฎหมายได้หรือไม่ หรือจะมีความครอบคลุมมากน้อยเพียงใด อย่างไรก็ตาม ฝ่ายบริหารของ ปธน. ทรัมป์ก็คาดการณ์ว่าจะลดจำนวนพนักงานลง 300,000 คน จากพนักงานรัฐบาลกลางที่มีอยู่ราว 2.4 ล้านคน ภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการลดขนาดรัฐบาล

ในระหว่างนี้ รัฐบาลกลางได้หยุดการดำเนินงานที่ไม่จำเป็น เช่น การระงับงานวิจัย สถาบันสุขภาพแห่งชาติของสหรัฐฯ (US National Institutes of Health - NIH) ได้วางแผนที่จะหยุดการวิจัยพื้นฐานภายในองค์กร และหยุดรับผู้ป่วยใหม่เข้าโรงพยาบาล NIH ในเมืองเบเธสดา รัฐแมริแลนด์ หาก Government shut down กินเวลานานก็จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อนักวิจัยที่ไม่ได้สังกัดรัฐบาล ทั้งมูลนิธิวิทยาศาสตร์แห่งชาติของสหรัฐฯ (US National Science Foundation - NSF) และ สำนักงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อมของสหรัฐฯ (US Environmental Protection Agency - EPA) จะถูกระงับทุนวิจัย

Government shut down ในครั้งนี้ “สามารถมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อกิจกรรมวิจัยทางวิทยาศาสตร์ และส่วนใหญ่ก็ขึ้นอยู่กับว่า Government shut down ในครั้งนี้จะนานแค่ไหน” Joanne Padrón Carney ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายความสัมพันธ์กับรัฐบาลของสมาคมอเมริกันเพื่อความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ (American Association for the Advancement of Science) ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. กล่าว

ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า Government shut down ในครั้งนี้จะกินเวลานานเท่าใด แต่ในสมัยแรกของรัฐบาลทรัมป์ (ปี 2017–2021) ใช้เวลายาวนานถึง 35 วัน ซึ่งยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ ก่อให้เกิดความเสียหายประมาณ 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และนำไปสู่ความวุ่นวายในหน่วยงานวิทยาศาสตร์ของสหรัฐฯ ส่วนใหญ่

การเผชิญหน้ากับ Government shut down

เมื่อเดือนมีนาคม 2025 สมาชิกวุฒิสภาจากพรรคเดโมแครตส่วนน้อย ได้ลงคะแนนร่วมกับพรรครีพับลิกันเพื่อผ่านร่างกฎหมายให้รัฐบาลเปิดทำการต่อไปได้ แต่ในครั้งนี้ สมาชิกสภานิติบัญญัติจากพรรคเดโมแครตได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับการสูญเสียเงินอุดหนุนด้านสุขภาพและประเด็นอื่นๆ แม้ว่านักวิทยาศาสตร์หลายคนจะกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของ Government shut down แต่บางคน ซึ่งรวมถึงนักวิจัยของรัฐบาลกลางบางส่วน มองว่านี่เป็นโอกาสให้รัฐสภาขัดขวางการดำเนินงานของทีม ปธน. ทรัมป์ ซึ่งได้รวมถึงการเลิกจ้างครั้งใหญ่ การตัดงบประมาณ และการก่อกวนงานวิจัย

การลดกำลังคน

Government shut down ครั้งก่อนหน้าไม่เคยมีภัยคุกคามจากการเลิกจ้างครั้งใหญ่ ซึ่งเรียกอย่างเป็นทางการว่า การลดจำนวนกำลังคน (reductions in force - RIFs) แต่ในครั้งนี้ สำนักงานการจัดการและงบประมาณทำเนียบขาว (White House Office of Management and Budget - OMB) ได้สั่งการให้หน่วยงานต่างๆ พิจารณาออกประกาศ RIF แก่พนักงานทุกคนที่ทำงานในโครงการบางประเภท ได้แก่ โครงการที่งบประมาณจากรัฐหมดลงในวันที่ 1 ตุลาคม 2025 และโครงการที่มีเป้าหมายที่ไม่สอดคล้องกับลำดับความสำคัญของประธานาธิบดี

Carney กล่าวว่าบันทึกข้อความนี้อาจถูกนำมาใช้เพื่อปิดโครงการต่างๆ ซึ่งเป็นผลลบต่อหน่วยงานทางวิทยาศาสตร์ ทำให้หน่วยงานที่ถูกตัดงบประมาณต้องลดจำนวนเจ้าหน้าที่ อย่างไรก็ตามยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าอำนาจนี้จะใช้ได้ในช่วงที่มี Government shut down ในครั้งนี้หรือไม่

รายละเอียดที่ไม่เพียงพอ

ไม่มีหน่วยงานใดสามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับ RIFs ที่อาจเกิดขึ้น แต่พนักงานของรัฐบาลกลางจำนวนมากในหน่วยงานที่เน้นวิทยาศาสตร์ก็ถูกสั่งให้หยุดงานโดยไม่ได้รับค่าจ้างแล้ว ตามแผนที่เผยแพร่ก่อนที่รัฐบาลจะปิดทำการ NSF ตั้งใจจะสั่งพักงานพนักงานประมาณ 75% องค์การบริหารมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศแห่งชาติ สหรัฐฯ (US National Oceanic and Atmospheric Administration - NOAA) คาดว่าจะสั่งพักงานพนักงาน 54% โดยระงับกิจกรรมการวิจัยส่วนใหญ่ที่ NASA ซึ่งเจ้าหน้าที่ 83% ถูกสั่งพักงาน จะมีเจ้าหน้าที่เพียงเล็กน้อยคอยดูแลให้ดาวเทียมที่ทำงานอยู่ยังคงใช้งานได้ เว็บไซต์ของ กระทรวงพลังงานของสหรัฐฯ (US Department of Energy - DOE) ไม่มีแผนฉุกเฉินโดยละเอียด และโฆษกของหน่วยงานปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดเฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ที่ถูกสั่งพักงาน ที่ EPA เจ้าหน้าที่ 86% ถูกสั่งพักงาน แต่การทดลองที่กำลังดำเนินอยู่จะได้รับการรักษาไว้ แผนฉุกเฉิน ของ NIH ระบุถึงการสั่งพักงานพนักงาน 78% โดยคงไว้เฉพาะหน้าที่สำคัญ เช่น การดูแลผู้ป่วยที่มีอยู่ ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ (US Centers for Disease Control and Prevention - CDC) จะสั่งพักงานเจ้าหน้าที่ 64%

อย่างไรก็ดี ยังมีงานวิทยาศาสตร์บางประเภทยังคงได้รับอนุญาตให้ดำเนินต่อไปได้ในทุกหน่วยงานในช่วง Government shut down นี้

ที่มา:

This US government shutdown is different: what it means for science, www.nature.com/articles/d41586-025-03192-4