top of page

AVIATION SAFETY: นั่งเครื่องบินปลอดภัยจริงไหม!?

  • Writer: OST Washingtondc
    OST Washingtondc
  • Apr 2
  • 1 min read

จากอุบัติเหตุทางการบินที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตตั้งแต่เดือน มกราคม 2025 ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของการบิน ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์เครื่องบินชนกันกลางอากาศระหว่างเฮลิคอปเตอร์ทหาร UH-60L Black Hawk ที่ชนกับเครื่องบินเจต Bombardier CRJ-700 ของสายการบิน American Airline ใกล้กรุงวอชิงตัน สหรัฐฯ เหตุการณ์เครื่องบินตกที่เมืองฟิลาเดลเฟีย รัฐเพนซิลเวเนีย เครื่องบินที่สูญหายในอะแลสกา อีกทั้งเครื่องบินของสายการบินเจแปนแอร์ไลน์ที่เฉี่ยวกับเครื่องบินของสายการบินเดลตาที่สนามบินซีแอตเทิล รัฐวอชิงตัน เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ เครื่องบินของสายการบินยูไนเต็ดแอร์ไลน์ที่เครื่องยนต์มีปัญหาจนทำให้เกิดไฟไหม้ที่ปีกขณะกำลังขึ้นบินที่สนามบินฮูสตัน รัฐเท็กซัส เครื่องบินของสายการบินเดลตาลื่นไถลพลิตคว่ำและเกิดเพลิงลุกไหม้ขณะลงจอดที่สนามบินโทรอนโต ประเทศแคนาดา ซึ่งยังไม่รวมถึงปัญหาความปลอดภัยที่เกิดขึ้นหลังจากพบผู้ลักลอบขึ้นเครื่องบินเสียชีวิตภายในช่องเก็บล้อของเครื่องบิน 2 ลำที่สนามบินในรัฐฟลอริดาและผู้โดยสารเปิดประตูทางออกฉุกเฉินบนเครื่องบินขณะที่กำลังวิ่งบนรันเวย์เพื่อขึ้นบินที่สนามบินในบอสตัน และอื่นๆ ตามแผนภาพด้านล่าง



สำหรับเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นในเดือนมีนาคม 2025 ได้แก่

1 มีนาคม: เครื่องบินทดลอง Vans RV7 รุ่น N902T ประสบอุบัติเหตุใกล้เมืองแมทธิวสัน รัฐโคโลราโด นักบินได้รับบาดเจ็บสาหัส

10 มีนาคม: เฮลิคอปเตอร์ขนส่งทางการแพทย์ตกในรัฐมิสซิสซิปปี มีผู้โดยสาร 3 คนอยู่บนเครื่องและทั้งหมดเสียชีวิต สาเหตุของอุบัติเหตุยังไม่ทราบแน่ชัด เจ้าหน้าที่สอบสวนกลางกำลังดำเนินการสอบสวน

13 มีนาคม: เครื่องบินเล็กตกในพื้นที่ป่าใกล้ถนน Lawson และ Clay Mathis ไม่ไกลจากสนามบิน Mesquite Metro รัฐเท็กซัส และนักบินเสียชีวิต

14 มีนาคม: เฮลิคอปเตอร์ตกในเมืองโมกาโดร์ รัฐโอไฮโอ


จากเหตุการณ์อุบัติเหตุทางอากาศทั้งหมดในสหรัฐฯ ตั้งแต่มกราคม-มีนาคม 2025 คณะกรรมาธิการความปลอดภัยการขนส่งแห่งชาติของสหรัฐฯ (National Transportation Safety Board: NTSB) และองค์การบริหารการบินแห่งสหรัฐอเมริกา (Federal Aviation Administration: FAA) กำลังสอบสวนอุบัติเหตุดังกล่าว เพื่อหาสาเหตุและวิธีป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะเดียวกันอีก มีการเปิดเผยข้อมูลถึงสาเหตุเกี่ยวกับการชนกันกลางอากาศระหว่างเฮลิคอปเตอร์ทหาร Black Hawk ที่ชนกับเครื่องบินเจ็ตของ American Airline ออกมาบ้างแล้ว เช่น เฮลิคอปเตอร์ทหาร Black Hawk มีการปิดระบบส่งสัญญาณติดตามอากาศยานอัตโนมัติ (Automatic Dependent Surveillance-Broadcast: ADS-B) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเฝ้าระวังการบินที่ส่งตำแหน่งของเครื่องบินและข้อมูลอื่นๆ ไปยังศูนย์ควบคุมการจราจรทางอากาศ เป็นต้น อย่างไรก็ตามการจัดทำรายงานฉบับสมบูรณ์เกี่ยวกับสาเหตุทั้งหมดที่เกิดขึ้นอาจต้องใช้เวลามากกว่าหนึ่งปี โดยเมื่อวันที่ 14 มีนาคมที่ผ่านมา FAA ได้ประกาศห้ามใช้พื้นที่น่านฟ้าร่วมกันระหว่างการบินของเฮลิคอปเตอร์และเครื่องบินเหนือแม่น้ำโปโตแมคโดยถาวร เว้นแต่เฉพาะการบินที่จำเป็นและได้รับอนุญาตเท่านั้น และ FAA ยังอยู่ระหว่างการศึกษามาตรการในพื้นที่เมืองใหญ่อีก 8 แห่งที่มีการใช้น่านฟ้าร่วมกันในลักษณะเช่นนี้ซึ่งรวมถึง บัลติมอร์ ลอสแอนเจลิส และนิวยอร์ก


หลายคนอาจตั้งคำถามว่าอุบัติเหตุทางอากาศเกิดบ่อยครั้งมากขึ้นในปี 2025 หรือไม่ คำตอบคือ ไม่ 

จากข้อมูลของ NTSB ระหว่างวันที่ 1 มกราคมถึง 23 กุมภาพันธ์ 2024 พบว่ามีอุบัติเหตุทางการบินมากกว่าในช่วงเดียวกันในปี 2025 โดยในระหว่างวันที่ 1 มกราคมถึง 23 กุมภาพันธ์ 2024 มีอุบัติเหตุทางการบิน 150 ครั้ง ซึ่งเป็นอุบัติเหตุที่ทำให้เกิดการเสียชีวิต 30 ครั้ง เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว ในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2025 มีอุบัติเหตุทางการบิน 100 ครั้ง โดย 14 ครั้งเป็นอุบัติเหตุที่มีการเสียชีวิต แต่ข้อมูลที่น่าสนใจคืออัตราการรอดชีวิตจากอุบัติเหตุในปี 2024 นั้นสูงกว่าในปี 2025 แม้ว่าจะมีจำนวนอุบัติเหตุในปี 2024 จะมากกว่าก็ตาม จนถึงเดือนมีนาคม 2025 นี้ มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุจากการเดินทางทางอากาศกว่า 100 ราย ทำให้เกิดความกังวลเพิ่มมากขึ้นเกี่ยวกับความปลอดภัยในการเดินทางทางอากาศ


สามารถอ่านหัวข้ออื่นๆ ได้แก่

  • ความสั่นคลอนใน Bombardier ของแคนาดา

  • เกิดอะไรขึ้นกับเครื่องบิน BOEING ของสหรัฐฯ

  • เหตุการณ์เครื่องบิน Embraer ของบราซิลที่ (เชื่อว่า) ถูกยิงตกโดยรัสเซีย

  • รหัส Squawk 7700

  • Traffic Alert and Collision Avoidance System (TCAS)

  • ทำไมบนเครื่องบินจึงไม่มีร่มชูชีพสำหรับผู้โดยสาร?

  • การเดินทางด้วยเครื่องบินมีความปลอดภัยมากกว่าการขับรถหรือไม่?























สามารถติดตามวารสารข่าวรายเดือนได้จาก https://www.ohesdc.org/utmostsciences


Comments


สำนักงานที่ปรึกษาด้านการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน

Office of Higher Education, Science, Research and Innovation
Royal Thai Embassy, Washington D.C.

2025 All Rights Reserved
+1 (202) 944-5200
ost@thaiembdc.org
facebook.com/ohesdc

 
1024 Wisconsin Ave. NW Suite 104,
Washington D.C 20007
bottom of page